สารจากประธานกรรมการบริษัท
ปี 2565 นับเป็นปีที่ยากลําบากสําหรับธุรกิจก่อสร้างแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรค COVID-19 จะดีขึ้นมีการยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ และเริ่มเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวแล้วแต่เรายังต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์ด้านอื่นๆ ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจก่อสร่าง อาทิ ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทําให้ต้นทุนพลังงานพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี วิกฤติดอกเบี้ยขาขึ้น และอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างล่าช้า โดยขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 ในขณะที่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในประเทศอยู่ที่ 6.08 ซึ่ง เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับแต่ปี 2541
มูลค่าการลงทุนภาคก่อสร้างของปี 2565 โดยรวมลดลง -1.2% โดยเป็นการหดตัวของโครงการภาครัฐ -2.7% ขณะที่ภาคเอกชนยังทรงตัวหรือขยายตัวเล็กน้อย 0-1.0% ต้นทุนด้านค่าขนส่ง และวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นท่ามกลางภาวะอุปสงค์ที่ซบเซา พิจารณาจากดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเหล็ก และปูนซีเมนต์ ที่เพิ่มขึ้น 6.7% YoY และ 10.7% YoY ตามลําดับตามทิศทางราคาน้ำมัน ต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น
ประกอบกับการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรง ทําให้บริษัทต้องลดอัตรากําไร (margin) ลงในบางโครงการ เพื่อให้ชนะการประมูลงานส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมาบริษัทยังคงมีกําไร โดยมีกําไรสุทธิลดลงจากปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 82 อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับความท้าทายที่อุตสาหกรรมก่อสร้างต้องเผชิญนับได้ว่าบริษัทสามารถฝ่าวิกฤติที่เกิดขึ้นได้ดีพอสมควร
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัท และฝ่ายบริหารมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดการปรับตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยง ความท้าทายปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงความผันผวนทางเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่มีต่อธุรกิจโดยรวม โดยเน้นการรักษาเสถียรภาพทางการเงินควบคุมสภาพคล่องอย่างเคร่งครัด ลดต้นทุนและพิจารณาการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสูง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการควบคู่กับการบริหารจัดการองค์กรสร้างประสิทธิภาพในการทํางานตามเป้าหมายรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง ทั้งนี้เมื่อวิกฤติการณ์ต่างๆ คลี่คลาย และเศรษฐกิจฟื้นตัว บริษัทจะสามารถขยายการเติบโต และแข่งขันได้อย่างแข็งแกร่ง
ส่วนในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนบริษัทได้กําหนดเป็นนโยบายสําคัญ โดยยึดหลักการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นรากฐานในการบริหารงานและมีธรรมาภิบาลในการดําเนินกิจกรรมต่างๆ ทางธุรกิจ โดยคํานึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน พร้อมทั้งให้ความสําคัญในด้านจริยธรรม และการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ
ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมบริษัทได้นําความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของบริษัทมาสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรและสังคมไปพร้อมๆกัน ผ่านโครงการและกิจกรรม ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกระตุ้นพนักงานให้เกิดจิตสํานึกและมีส่วนร่วมในการทํากิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ นําไปสู่การร่วมพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ นอกจากนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นคิดค้นพัฒนาแนวทาง solution หรือ นวัตกรรมใหม่ๆ ในการก่อสร้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานลดต้นทุน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทิศทางการดําเนินธุรกิจของบริษัท บริษัทมุ่งดําเนินธุรกิจให้เป็น “Innovative and Technology Construction Company for Sustainable Living” โดยยังคงดําเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นหลักและเน้นรับงานก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคจากทางภาครัฐ ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันในส่วนของงานภาคเอกชน บริษัทฯเน้นรับงานก่อสร้างศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Data Center) งานบ้านพักอาศัยระดับ High end รวมถึงการก่อสร้างและพัฒนา Green Building Solution ซึ่งกําลังมีการเจริญเติบโตสูง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ขยายธุรกิจด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีการก่อสร้าง โดยนําเข้าผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีเกี่ยวกับนวัตกรรมการก่อสร้างที่มีคุณภาพสูงจากยุโรป ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการก่อสร้างให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมลงด้วย
ปี 2566 บริษัทฯ ได้เดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงองค์กรให้มีศักยภาพในระดับสากลเพื่อเสริมสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง รองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในปีนี้บริษัทประสบความสําเร็จในการประมูลงานใหม่ จนมีงานรอส่งมอบ (Back log) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทํากําไรได้อย่างต่อเนื่อง และอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นที่พึงพอใจแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
ในนามของคณะกรรมการบริษัทขอขอบคุณผู้ถือหุ้น คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตลอดจนผู้บริหารและพนักงานที่ได้ให้ความไว้วางใจ และมีส่วนช่วยสนับสนุนการดําเนินธุรกิจของบริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) ด้วยดีตลอดมา ทั้งนี้ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าความมุ่งมั่นในการดําเนินธุรกิจโดยปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เพื่อขับเคลื่อนและเติบโตให้สู่เป้าหมายสูงสุด เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และนวัตกรรมการก่อสร้างชั้นนํา โดยยึดมั่นตามหลักการกํากับดูแลกิจการที่ดี ด้วยความรับผิดชอบต่อโลก สิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อสร้างสรรค์คุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นายวิเชฐ ตันติวานิช
ประธานกรรมการบริษัท